แหล่งข่าวระดับสูงบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปลายเดือน พ.ค. ปตท. ได้ยื่นหนังสืออุทธรณ์คำสั่งคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เรื่องการส่งผ่านราคาก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย กรณีที่ผู้ผลิตไม่สามารถส่งมอบก๊าซธรรมชาติได้ตามเงื่อนไขในสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติ โดยให้ ปตท. คืนเงินส่วนต่างจำนวน 4,300 ล้านบาท ให้ผู้ใช้ก๊าซฯ เนื่องจาก ปตทคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. ไม่เห็นด้วยกับคำสั่งดังกล่าว จำเป็นต้องมีการตีความเงื่อนไขสัญญาต่างๆ และเป็นมุมมองที่อาจแตกต่างกัน ต้องเข้าสู่กระบวนการพิจารณา ซึ่งไม่รู้ว่าจะใช้เวลานานแค่ไหน คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
ทั้งนี้ที่ผ่านมา สัญญาซื้อขายก๊าซฯ ที่ระหว่าง ปตท. กับผู้ผลิตฯ ก็มีการระบุเงื่อนไขต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Take or Pay หรือ Short Fall กรณีที่ผู้ผลิตฯ ไม่สามารถส่งมอบก๊าซฯ ได้ตามสัญญาก็จะมีบทปรับเกิดขึ้น โดย ปตท. ดำเนินการตามเงื่อนไขสัญญา ไม่ได้ทำอะไรที่บกพร่อง และที่ผ่านมา ปตท. ได้ดำเนินการช่วยเหลือค่าครองชีพด้านพลังงานให้กับประชาชนมาโดยตลอด ซึ่งการยื่นอุทธรณ์ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก เพราะเมื่อปีที่แล้ว ปตท. ได้ยื่นอุทธรณ์เรื่องค่าผ่านท่อฯ ต่อ กกพ. แต่ยังไม่มีการตัดสินออกมา
“ปตท. ได้ดำเนินการช่วยเหลือค่าครองชีพด้านพลังงานให้กับประชาชนมาโดยตลอด โดยเห็นว่า ตลอดระยะเวลาของวิกฤติโควิด-19 และสงครามรัสเซีย-ยูเครน ส่งผลให้ราคาพลังงานปรับเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อการผลิตพลังงานในตลาดโลก ปตท. ในฐานะบริษัทพลังงานแห่งชาติ ได้ร่วมแก้ไขและบรรเทาปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมรองรับปริมาณความต้องการของประเทศทั้งในภาคประชาชน การขับเคลื่อนอุตสาหกรรม เป็นจำนวนเงินรวมกว่า 20,000 ล้านบาท ช่วยเหลือระหว่างปี 63-65 เช่น การสำรองน้ำมัน 4 ล้านบาร์เรล การตรึงราคาเอ็นจีวี การช่วยเหลือราคาแอลพีจี แก่หาบเร่แผงลอยผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การสนับสนุนเงินเข้ากองทุนน้ำมัน และการขยายเครดิตเทอมแก่ กฟผ. เพื่อลดภาระค่าเอฟที”
แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) กล่าวว่า ได้รับหนังสือยื่นอุทธรณ์จาก บมจ.ปตท. แล้ว ซึ่ง บมจ.ปตท. ยื่นอุทธรณ์ถึงประเด็นสัญญาว่า สามารถดำเนินการได้ โดยการประชุมบอร์ด กกพ. ล่าสุด จึงได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณาการอุธรณ์ดังกล่าวแล้ว เพื่อหาข้อสรุปโดยเร็ว จะพยายามให้แล้วเสร็จภายในเดือนนี้ หรือต้นเดือนหน้า เพื่อนำเงินมาลดราคาก๊าซธรรมชาติ ส่งผ่านไปถึงต้นทุนค่าไฟงวดใหม่ให้ถูกลง
สำหรับคณะอนุกรรมการดังกล่าว มีบอร์ด กกพ. เป็นประธาน มีกรรมการเป็นผู้เชี่ยวชาญจากภาคส่วนต่างๆ และผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น ตัวแทนจากกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ, อดีตผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงพลังงาน, การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.), สำนักอัยการสูงสุด, สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา รวมทั้งจะเชิญ บมจ.ปตท. บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต ผู้ได้รับสัมปทานเดิม มาให้ข้อมูล แต่ไม่ได้อยู่ในส่วนของคณะทำงาน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย